นุ๊กนิ๊ก

นุ๊กนิ๊ก

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ตอนที่ 2


พวกเขาสร้างแรงบันดาลใจอะไรให้คุณได้บ้าง
หลังจากได้กล่าวถึงบุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ 5 ท่านก่อนหน้านี้ไปแล้วในตอนที่ 1 บทความนี้จึงกล่าวถึงนักธุรกิจและบุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจอีก 5 ท่าน เพื่อว่าเราจะได้นำแนวคิดและไอเดียต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในกิจการให้ดำเนินก้าวหน้าและประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้

Richard Branson
Photo courtesy of Getty Image
หลายคนน่าจะรู้จักเขาดีในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทในเครือ Virgin (เวอร์จิ้น) อันโด่งดัง ซึ่งมีสาขาธุรกิจอยู่ทั่วทุกภาคพื้นภูมิภาคในโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย เซอร์ริชาร์ด แบรนสันถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ไฟแรงที่ประสบความสำเร็จในเรื่องธุรกิจมากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำความคิดและความฝันมาสร้างให้เกิดขึ้นบนโลกแห่งความเป็นจริง หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่านักขายฝันนั่นเอง เขาเริ่มธุรกิจครั้งแรกด้วยวัยเพียง 15 ปีจากการทำนิตยสารรายเดือนของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็เหมือนกับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอีกหลายคนที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ซึ่งต่างเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยอายุน้อยๆ กันทั้งนั้น จากนั้นจึงเริ่มลงหลักปักฐานอย่างจริงจังในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อบันเทิงและเสียงดนตรีแล้วขยับขยายไปสู่สื่อสารมวลชนแขนงอื่นๆ จากนั้นจึงพัฒนาธุรกิจกลายมาเป็นสายการบินเชิงพาณิชย์ในที่สุด นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของธุรกิจกว่าอีก 360 บริษัท สิ่งที่เป็นจุดเด่นในการทำธุรกิจของเขาคือความอดทนและการมีเป้าหมายในการทำธุรกิจที่แน่วแน่มั่นคง พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายความฝันที่ตนเองได้วางเอาไว้ กล้าคิดทำธุรกิจที่บางคนอาจมองว่านอกกรอบ แต่สำหรับเขาถือเป็นความท้าทายจนต้องทำให้สำเร็จ และที่น่าสังเกตที่สุดก็คือแบรนสันมีความสุขอย่างที่สุดเวลาทำงานจึงทำให้ผลงานมีประสิทธิภาพตามมาด้วย และด้วยความที่เป็นคนไม่หยุดนิ่ง ผู้คนจึงมักให้ความสนใจเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าเขาจะขยับไปทางไหนก็เป็นข่าว จึงกลายเป็นการประหยัดงบประมาณการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปในตัวอีกด้วย

Henry Ford
Photo Courtesy of mustangsandiego
อีกหนึ่งตัวอย่างของคำว่าถึงตัวตายแต่ชื่อยังคงอยู่ได้เป็นอย่างดี ฟอร์ดมีอายุอยู่ในช่วงราวปีพุทธศักราช 2406-2490 เขาโดดเด่นมากในบทบาทของนักประดิษฐ์ ผู้นำสิ่งประดิษฐ์เข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้าจนเกิดเป็นกระบวนการทางธุรกิจขึ้นมา ถือเป็นต้นแบบสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่มีความคิดและไอเดียในการสร้างสิ่งประดิษฐ์มาขาย นอกจากนี้เขายังเป็นนักธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและครบเครื่องไปเสียทุกด้าน จุดเด่นหนึ่งในนั้นคือเรื่องของวิสัยทัศน์ โดยเฉพาะการเข้าใจตลาดอย่างแท้จริงในเรื่องดีมานด์และซัพพลายของระบบเศรษฐกิจ เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรออกมาก็สามารถขายได้หมดและยังได้ราคาดีที่สุดอีกต่างหาก และเขายังเป็นปรมาจารย์ด้านลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้สินค้ามีราคาถูกลง ทำให้สามารถกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้ทุกกลุ่มและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นนั่นเอง สิ่งเหล่านั้นทำให้เฮนรี่ ฟอร์ดคือผู้เข้าใจกลไกทางตลาดอย่างแท้จริง

George Soros
Photo courtesy of The Lens
ฉายาพ่อมดทางการเงินถือเป็นใบประกันความสำเร็จในการทำธุรกิจของเขาได้เป็นอย่างดี คนไทยจำนวนมากคงจดจำชื่อของราชาทางการเงินจอร์จ โซรอสผู้นี้ได้อย่างไม่มีวันลืมเลือนอย่างแน่นอน เพราะเขาผู้นี้ได้โจมตีค่าเงินบาทไทยจนนำไปสู่ภาวะวิกฤตที่ทั่วโลกขนานนามว่าต้มยำกุ้ง เขาถือเป็นผู้ร้ายในสายตาคนไทยมานานจากวิกฤตการณ์ครั้งนั้น แต่หากลองมองดูให้ลึก แยกเรื่องส่วนตัวและความเป็นชาตินิยมออกมาก็จะเห็นว่าโซรอสมีจุดดีที่สามารถนำมาเป็นแบบอย่างในการสร้างแรงบันดาลใจได้ ซึ่งความเด่นที่สุดของเขาคือการวางแผนทางการเงินบวกกับความสามารถในการพยากรณ์ความน่าจะเป็นของตลาดทุนภายในอนาคตได้โดยอาศัยปัจจัยทางด้านข้อมูลมาเป็นตัววิเคราะห์ จากความสามารถที่กล่าวมาทำให้เขาสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลจากการเก็งกำไรค่าเงิน นอกจากนี้ความสามารถเรื่องการฉกฉวยช่วงชิงเมื่อคู่ต่อสู้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นก็เป็นคุณสมบัติที่เขามี อีกทั้งยังมีวิญญาณเพชฌฆาตที่พร้อมเข้าขย้ำเหยื่อทางธุรกิจโดยปราศจากความปรานี ซึ่งเราอาจนำมาเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันก็เป็นได้

Mark Zuckerberg
Photo courtesy of Paul Sakuma/AP
ชื่อนี้อาจทำให้ใครหลายคนเกิดความฉงนสงสัยว่าเขาผู้นี้เป็นใครกัน แต่หากถามว่ารู้จักเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ชื่อว่า Facebook หรือไม่ ฟันธงได้เลยว่ากว่าร้อยละ 90 ต่างรู้จักและก็ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันด้วย และบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจอันดับที่ 9 ก็คือมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้สร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชื่อว่า Facebook นั่นเอง เขาจัดเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกาด้วยอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือแนวคิดในการทำธุรกิจของเขาซึ่งเข้าขั้นเทพเลยทีเดียว เขาเลือกจะไม่คิดค่าตอบแทนเลยสักบาทเดียวอันเป็นแนวความคิดทางการตลาดเรื่องการแบ่งปันช่วยเหลือกัน แม้ว่าหลายบริษัทพยายามเสนอเงินจำนวนมหาศาลเพื่อขอซื้อเว็บไซต์จากเขา แต่เขาก็ปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าเขาต้องการสร้างสิ่งที่อยู่ได้ในระยะยาว และเขาไม่สนสิ่งอื่นใดนอกจากนั้น ซึ่งความคิดที่เห็นว่าการสร้างพึงพอมีคุณค่ากว่าเงินก็สามารถนำมาปรับใช้ในการทำธุรกิจยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี 

Li Ka-shing
Photo courtesy of AP
ลี กาชิง นักธุรกิจชาวจีนเจ้าของสมญานาม "ซูเปอร์แมน" คืออีกหนึ่งตำนานนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จบนเวทีระดับโลกอย่างแท้จริง ลี กาชิงเกิดที่ประเทศจีนก่อนจะเดินทางเข้ามาในเขตการปกครองพิเศษฮ่องกงในยุคที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรในฐานะผู้ลี้ภัย เรื่องราวชีวิตของเขาน่าสนใจมากและยังมีส่วนสร้างแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจสายเลือดใหม่หลายต่อหลายคน เขาต้องออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 15 ปี เพื่อรับหน้าที่เสาหลักในการดูแลแม่และน้องๆ แทนพ่อที่เสียชีวิต กาชิงคือต้นแบบของผู้ทำงานหนักตั้งแต่เป็นหนุ่ม เขาเริ่มตั้งบริษัทแห่งแรกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมพลาสติกตั้งแต่อายุยังไม่ทันครบ 30 ปี จากนั้นจึงเริ่มขยับขยายธุรกิจไปยังสาขาอื่นๆ โดยมีบริษัท Cheung Kong (Holdings) เป็นบริษัทแม่ และยังเป็นเจ้าของบริษัท Hutchison Whampoa Ltd. และบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในเครืออีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มบริษัทของเขาคือผู้ทรงอิทธิพลอย่างแท้จริงด้านการสื่อสารทั้งในฮ่องกง จีน และยุโรป มีทรัพย์สินมากกว่าสามหมื่นสี่พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ลักษณะเด่นของเขาในการทำธุรกิจคือความกล้าได้กล้าเสีย พร้อมจะลงทุนทำสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เขายังชอบอ่านหนังสือเพื่อศึกษาหาความรู้เป็นประจำอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนอนหนังสือตัวยงเลยทีเดียว ปัจจุบันบริษัทของเขาคือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในระบบ 3G ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในรอบปีที่ผ่านมาบริษัทฮัทชินสันของเขามีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 40%
สองสิ่งที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่มีเหมือนและเท่าเทียมกับบุคคลทั้ง 10 ผู้สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจก็คือ หนึ่ง ลมหายใจที่จะใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งต่างให้เกิดขึ้นด้วยตนเอง และสอง เวลาในการทำความฝันให้เป็นความจริง ทั้งสองสิ่งนี้คือหัวใจและองค์ประกอบสำคัญที่มีในผู้ประกอบการทุกคน อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการจะสามารถนำทั้งสองอย่างนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แค่ไหนและอย่างไรนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น